
พอได้ยินคำว่า ธรรมชาติของมนุษย์ คุณต้องนึกถึงการที่มนุษย์กระทำหรือตัดสินใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือสภาวะใดสภาวะหนึ่งโดยอัตโนมัติ ที่มาจาก 2 ภาวะอารมณ์ ก็คือ รัก กับ กลัว
-ถ้าความรักคือ ความยินดี ปรารถนาดี ความสำเร็จ การได้มาซึ่งสิ่งปรารถนา ความปิติ ความสุข การช่วยเหลือแบ่งปัน การดึงดูด
-ถ้าความกลัวคือ การป้องกันตัวเอง การผลักไส ความตรึงเครียด ความเศร้าโศก อิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ความเจ็บปวด
ธรรมชาติของมนุษย์จะพยายามเลี่ยงภาวะจากความกลัว ก่อนที่จะเลือกภาวะแห่งความรักเสมอ เช่น มนุษย์เลือกที่จะเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดก่อน แม้จะมองเห็นว่าถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะได้รับความสำเร็จ และความสุข ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำเครือข่ายเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แทนที่จะทำงานเพราะไม่อยากโดนปฎิเสธ
แล้วการตลาดแบบเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างไร?
ธรรมชาติของคน ข้อแรก คนไม่ชอบถูกขาย นี่ไงครับทำไมท่านเสียเพื่อน คนรู้จัก เพราะท่านพยายามที่จะขายอะไรเขาอยู่ไงครับ คนเราจะมีระบบป้องกันตัวเองทันทีธรรมชาติของคน ข้อที่สอง คนชอบซื้อ ถ้าท่านมีเงินสัก 100 ล้าน ผมว่าเมนูที่ท่านจะใช้เงิน 99เปอร์เซ็นต์เป็นการซื้อเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทื่ดิน ซื้อ อื่นๆอีกมากมายธรรมชาติของคน ข้อที่สาม คนไม่ชอบง้อคน ถามหน่อยครับ ท่านที่ทำเครือข่าย ท่านชอบง้อคนไหม แล้วย้อนมองการตลาดทีท่านพยายามโน้มน้าวคน มาสนใจกับท่าน พยายามสาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย รู้ไหมท่านกำลังง้อคน
เห็นภาพไหมครับว่า ท่านกำลังทำการตลาดที่ฝืนธรรมชาติ ทั้งกับคนที่ท่านแนะนำ และตัวของท่านเอง เพราะท่านพยายามขาย โน้วน้าวเต็มที่ แต่คนที่ท่านแนะนำพยายามที่จะออกไปจากบริบทนั้นเพราะไม่อยากถูกขาย
การตลาดที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ก็คือการที่ท่านทำการตลาดแบบไม่ง้อใคร และท่านต้องนำเสนอในสิ่งที่เขาต้องการมันอยู่แล้วหรือแก้ปัญหาให้เขาได้ ไม่ใช่มาโน้มน้าวให้เขาเริ่มสนใจ ตัวอย่างหนึ่ง ที่เห็นชัดเจนคือ ถ้าคุณพยายามขายเนื้อสันอย่างดีให้กับคนที่กินเจ แม้เนื้อท่านจะมีคุณภาพเท่าใดก็ไม่มีคนซื้อ คุณต้องมีระบบกรองว่าเขากินเนื้อ ถ้าจะให้ดีต้องมีระบบกรองไปอีกว่าเขาชอบทานเนื้อสันคุณภาพดี แล้วคุณก็แค่ทำการตลาดกับคนแบบนี้ไงครับ
การทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ สิ่งแรกทีท่านต้องรู้คือกลุ่มเป้าหมายของท่านคือใคร อย่างที่สอง ท่านมีวิธีการหรือสินค้าที่เป็นที่ต้องการของเขาหรือไม่ อย่างที่สาม จะทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อท่านเข้าใจทั้งสามข้อแล้วก็สามารถวางกลยุทธ์ ในการทำเครือข่ายของท่านได้
ทีนี้มองออกแล้วใช่ไหมครับว่าท่านจะทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติของคนอย่างไรบนพื้นฐานไม่ง้อใคร และไม่มีใครรู้สึกว่าถูกขาย
ThaiAttractionMarketing Team
-ถ้าความรักคือ ความยินดี ปรารถนาดี ความสำเร็จ การได้มาซึ่งสิ่งปรารถนา ความปิติ ความสุข การช่วยเหลือแบ่งปัน การดึงดูด
-ถ้าความกลัวคือ การป้องกันตัวเอง การผลักไส ความตรึงเครียด ความเศร้าโศก อิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ความเจ็บปวด
ธรรมชาติของมนุษย์จะพยายามเลี่ยงภาวะจากความกลัว ก่อนที่จะเลือกภาวะแห่งความรักเสมอ เช่น มนุษย์เลือกที่จะเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดก่อน แม้จะมองเห็นว่าถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะได้รับความสำเร็จ และความสุข ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำเครือข่ายเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แทนที่จะทำงานเพราะไม่อยากโดนปฎิเสธ
แล้วการตลาดแบบเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างไร?
ธรรมชาติของคน ข้อแรก คนไม่ชอบถูกขาย นี่ไงครับทำไมท่านเสียเพื่อน คนรู้จัก เพราะท่านพยายามที่จะขายอะไรเขาอยู่ไงครับ คนเราจะมีระบบป้องกันตัวเองทันทีธรรมชาติของคน ข้อที่สอง คนชอบซื้อ ถ้าท่านมีเงินสัก 100 ล้าน ผมว่าเมนูที่ท่านจะใช้เงิน 99เปอร์เซ็นต์เป็นการซื้อเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทื่ดิน ซื้อ อื่นๆอีกมากมายธรรมชาติของคน ข้อที่สาม คนไม่ชอบง้อคน ถามหน่อยครับ ท่านที่ทำเครือข่าย ท่านชอบง้อคนไหม แล้วย้อนมองการตลาดทีท่านพยายามโน้มน้าวคน มาสนใจกับท่าน พยายามสาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย รู้ไหมท่านกำลังง้อคน
เห็นภาพไหมครับว่า ท่านกำลังทำการตลาดที่ฝืนธรรมชาติ ทั้งกับคนที่ท่านแนะนำ และตัวของท่านเอง เพราะท่านพยายามขาย โน้วน้าวเต็มที่ แต่คนที่ท่านแนะนำพยายามที่จะออกไปจากบริบทนั้นเพราะไม่อยากถูกขาย
การตลาดที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ก็คือการที่ท่านทำการตลาดแบบไม่ง้อใคร และท่านต้องนำเสนอในสิ่งที่เขาต้องการมันอยู่แล้วหรือแก้ปัญหาให้เขาได้ ไม่ใช่มาโน้มน้าวให้เขาเริ่มสนใจ ตัวอย่างหนึ่ง ที่เห็นชัดเจนคือ ถ้าคุณพยายามขายเนื้อสันอย่างดีให้กับคนที่กินเจ แม้เนื้อท่านจะมีคุณภาพเท่าใดก็ไม่มีคนซื้อ คุณต้องมีระบบกรองว่าเขากินเนื้อ ถ้าจะให้ดีต้องมีระบบกรองไปอีกว่าเขาชอบทานเนื้อสันคุณภาพดี แล้วคุณก็แค่ทำการตลาดกับคนแบบนี้ไงครับ
การทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ สิ่งแรกทีท่านต้องรู้คือกลุ่มเป้าหมายของท่านคือใคร อย่างที่สอง ท่านมีวิธีการหรือสินค้าที่เป็นที่ต้องการของเขาหรือไม่ อย่างที่สาม จะทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อท่านเข้าใจทั้งสามข้อแล้วก็สามารถวางกลยุทธ์ ในการทำเครือข่ายของท่านได้
ทีนี้มองออกแล้วใช่ไหมครับว่าท่านจะทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติของคนอย่างไรบนพื้นฐานไม่ง้อใคร และไม่มีใครรู้สึกว่าถูกขาย
ThaiAttractionMarketing Team
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น